7 ขั้นตอนผ่อนคลายความเครียด
เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มมีความเครียดและรู้สึกถูกรบกวนจนต้องทำให้ไม่มีความสุข ควรหาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะสมให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ความเครียดนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพทางกายและใจของเราซึ่ง กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำ 7 ขั้นตอนผ่อนคลายความเครียดดังนี้ค่ะ
1.หยุดพักการทำงานหรือกิจกรรมที่กำลังทำอยู่นั้นชั่วคราว ลุกเดินไปดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำ ยืน ยืดเส้นยืดสาย สะบัดแข้งสะบัดขา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก็จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
2.ทำงานอดิเรกที่สนใจ จะทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน สนุก มีความสุข ลืมความเครียดที่มีอยู่ไปขณะหนึ่ง เต้นรำ ฟังเพลง เป็นต้น
3.เล่นกีฬาหรือบริหารร่างกาย ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน ฯลฯ โดยเลือกกีฬาที่ชอบหรือถนัด
4.พบปะสังสรรค์กับเพื่อนที่ไว้วางใจ ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกัน เช่น การรวมกลุ่มพูดคุยเรื่องที่สนุกสนาน อยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนที่อารมณ์ดี สร้างอารมณ์ขันให้ตนเอง เพื่อให้เกิดความรู้สึกเพลิดเพลินและอารมณ์ดี
5.พักผ่อนให้เพียงพอ คนที่เครียดมักจะมีอาการนอนไม่หลับ หลับยาก หรือหลับแล้วตื่นกลางดึก ฝันร้าย ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย การที่จะทำให้นอนหลับในตอนกลางคืนได้นั้น สิ่งสำคัญคือ ควรหลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน และอย่ากังวลว่าจะนอนไม่หลับ เข้านอนเป็นเวลา และหากยังไม่ง่วงก็ให้หากิจกรรมบางอย่างทำไปก่อน เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ฟังวิทยุ เป็นต้น
6.ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวให้เหมาะสม เช่น เก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทำความสะอาดบ้านและที่ทำงานให้ดูดีขึ้น ซึ่งหากสิ่งแวดล้อมดูสะอาดเรียบร้อยและสวยงามน่าอยู่แล้ว ย่อมทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีและช่วยลดความเครียดลงได้
7.เปลี่ยนบรรยากาศชั่วคราว ในบางครั้งเราอาจเคร่งเครียดกับงานหรือกิจกรรมบางอย่างมากๆ อาจทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย ซ้ำซาก จำเจเกินไปทำให้ไม่มีความสุข ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศชั่วคราว
ด้วยการชักชวนคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงออกไปเที่ยวชมธรรมชาติ หลีกหนีความจำเจไปชั่วคราว หยุดงานชั่วขณะ พักผ่อน เดินทางไปสถานที่ที่ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและ
เพลิดเพลินระยะหนึ่ง จะทำให้ความตึงเครียดลดลง และพร้อมที่จะลุยงานต่อไปได้ใหม่
เมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าความเครียดกำลังคุกคาม อย่านิ่งนอนใจเชียวนะคะ เพราะนอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อตัวเองแล้ว เดี๋ยวจะทำให้คนรอบข้างพลอยเครียดตามไปด้วยค่ะ
น.ส.สพัตรา ขันท้าว ม.5/6 เลขที่ 21
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น