หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สวัสดี...เวียดนาม

สาธารณรัฐสังคมคมนิยมเวียดนาม


ประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งในกลุ่มอาเซียน เข้าร่วมกลุ่มอาเซียนเมื่อปีพ.ศ.2538
มีอาณาเขต 331,689 ตารางกิโลเมตร
มีประชากร 83.1 ล้านคน ในปีพ.ศ.2548ลักษณะภูมิประเทศ มีลักษณะเป็นรูปตัว S ตามแนวฝั่งตะวันตกของทะเลจีนใต้จากเส้นละติจูด 2322' เหนือ ถึง 830' เหนือ และลองติจูด 10929' ตะวันออก ถึง 10210' ตะวันออก ความยาวจากเหนือจรดใต้ 1,650 กิโลเมตร ขนานไปตามแนวยาวของคาบสมุทรอินโดจีน นอกจากนี้ยังมีไหล่เขาและหมู่เกาะต่างๆ อีกนับพันเกาะเรียงรายตั้งแต่อ่าวตังเกี๋ยไปจนถึงอ่าวไทย เนื่องจากแผ่นดินของเวียดนามมีความยาวมาก ทำให้ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ แตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยอาจแบ่งได้เป็น 4 ส่วนคือ ภาคเหนือ ภาคกลาง เขตที่ราบสูง และภาคใต้ ภาคเหนือ จากพื้นที่เหนือสุดถึงจังหวัดกวางบินห์ (Quang Binh) ภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสูงมากมาย โดยเฉพาะเทือกเขาฟานซีปาน (Fansipan ) ซึ่งสูงถึง 3,143 เมตร สูงที่สุดใน อินโดจีน มีแม่น้ำสำคัญคือ แม่น้ำกุง (Cung) ซึ่งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำแดงเป็นดินดอนสามเหลี่ยมที่อุดมสมบูรณ์ (Red River Delta) เหมาะแก่ การเพาะปลูก เนื่องจากเวียดนามมีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่หลากหลาย จึงทำให้เวียด นามมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย มีแม่น้ำไหลผ่านหุบเขาและที่ราบมากกว่า 2,800 สาย โดยเป็นแม่น้ำที่มีความยาวมากกว่า 10 กิโลเมตรกว่า 2,300 สาย มีพื้นที่ป่าเขตร้อนมากถึงร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ รวมถึงป่าชายเลนที่มีพื้นที่ประมาณ 200,000 เฮกตาร์ (1.25 ล้านไร่ ) มีรุกขชาติมากกว่า 7,000 ชนิด แบ่งเป็น 239 สายพันธุ์ เป็นแหล่งกำเนิดน้ำมันยางไม้และพืชสมุนไพรมากมาย ที่ราบสูงเหมาะแก่การปลูกพืชเขตหนาว เช่น กาแฟ ใบชา ปอ นอกจากนี้ เวียดนามยังมีสินแร่ที่ค้นพบแล้วมากกว่า 2,000 ชนิด โดยหลายชนิดมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและมีปริมาณมากพอสำหรับการขุดเจาะในเชิงพาณิชย์ เช่น เหล็ก พบมากในจังหวัดท้ายเหวียน (Thai Nguyen) และในบริเวณลุ่มแม่น้ำแดง ถ่านหิน โดยเฉพาะถ่านหินแอนทราไซต์ที่มีคุณภาพดี ให้ความร้อนสูง ใช้ในอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก พบมากในจังหวัด กว๋างนินห์ (Quang Ninh)สภาพภูมิอากาศ ภูมิอากาศแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู คือ
-
ฤดูใบไม้ผลิ ( มีนาคม-เมษายน)มีฝนตกปรอยๆ และความชื้นสูง อุณหภูมิประมาณ 17C - 23
C
-
ฤดูร้อน ( พฤษภาคม-สิงหาคม)อากาศร้อนและมีฝน อุณหภูมิประมาณ 30C- 39C เดือนที่ร้อนที่สุดคือ มิถุนายน

-
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน ) อุณหภูมิ 23C-28
C
-
ฤดูหนาว ( ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ) อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในรอบปี คือ ประมาณ 7C - 20C แต่ในบางครั้งอุณหภูมิอาจลดลงถึง 0C เดือนที่หนาวเย็นที่สุดคือ มกราคม ฤดูที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ทุกฤดู ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาอากาศค่อนข้างเย็นสบายซึ่งอยู่ในระหว่างเดือน ( ธันวาคม - กุมภาพันธ์ )




ประเพณีพื้นเมือง


                 หุ่นกระบอกน้ำ เป็นการแสดงหุ่นกระบอกของเวียดนาม มีการแสดงเฉพาะที่ฮานอย ในโรงละครริมทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม บนถนนดิงห์เตียมฮว่าง หุ่นกระบอกน้ำ ใช้ผู้เชิดอยู่หลังมู่ลี่ไม้ไผ่ที่มีการพรางไว้ ตัวหุ่นเชิดจะอยู่ที่ปลายไม้ที่ยาวพอที่จะยื่นออกมานอกฉากที่ผู้เชิดบังคับ มีกลไกบังคับมือหรืออวัยวะของหุ่นที่ทำจากไม้ฉำฉาที่เบาและพยุงน้ำหนักเมื่ออยู่ในน้ำ และการเชิดต้องไม่ให้เห็นไม้บังคับหุ่น จึงทำให้ดูเหมือนหุ่นมีลีลาของตนเอง ในประเทศไทยมีการนำมาแสดงบางส่วนที่พัทยา


แผนที่ อาณาเขต
แผนที่ อาณาเขต
ทิศเหนือ มีพรมแดนติดกับประเทศ จีนยาว ๗๒๘ กิโลเมตร
ทิศตะวันตก มีพรมแดนติดลาวยาว ๑,๕๕๕ กิโลเมตร
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดกัมพูชายาว ๙๘๒ กิโลเมตร ทิศตะวันออก มีพรมแดนติดทะเลจีนใต้ และทิศใต้ติดอ่าวไทย


เมืองหลวง


            เมืองสำคัญทางภาคเหนือ ได้แก่ ฮานอย (Ha Noi) เมืองหลวง เป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศและเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าทางภาคเหนือ ไฮฟอง (Hai Phong) เป็นเมืองท่าสำคัญในภาคเหนือมีท่าเรือสำคัญคือ Hai Phong Port และมีสนามบิน Cat Bi Airport มีอ่าวฮาลองเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมี หินปูน,ถ้ำเสาไม้,เกาะกัดบา,เกาะเหล่านี้มักจะได้รับการตั้งชื่อจากรูปร่างลักษณะที่แปลกตา เช่น เกาะช้าง (Voi Islet) เกาะไก่ชน (Ga Choi Islet) เกาะหลังคา (Mai Nha Islet)


อาหารประจำชาติ



              แหนมเนือง เป็นอาหารประจำชาติเวียดนาม โดยนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง ประเทศไทยได้รับอิทธิพลและนิยมรับประทานกันมากในจังหวัดทางภาคอีสานตอนบน (โดยเฉพาะจังหวัดหนองคาย) เนื่องจากพื้นที่ติดกับประเทศเวียดนาม
เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากมีรสชาติเฉพาะเจาะจงเป็นเอกลักษณ์มาก เมื่อรับประทานเต็มชุดจะมีผักต่างๆ มากมาย เป็นผักสดที่หาได้ไม่ยากนัก เช่น ผักสลัด ผักหอมต่างๆ ยังมีสมุนไพรมากมาย เช่น กระเทียม พริก มะม่วง หรือมะเฟือง เป็นต้น พร้อมกับน้ำพริกรสเด็ดของแต่ละสูตรน้ำจิ้ม

                 ชุดประจำชาติเวียดนาม    



                 ชุดประจำชาติเวียดนาม หรือ ชุด Ao dai นี้ (อ่านว่า อาว หญ่าย) แปลว่า "ชุด ยาว" ซึ่งสำเนียงนี้เป็นสำเนียงของภาคเหนือ ส่วนภาคใต้จะออกเสียงสั้น ๆ ว่า "อ่าว ซ่าย" ซึ่งส่วนมากแล้วในอดีตคนในภาคเหนือของประเทศเวียดนามจะนิยมใส่มากกว่าภาคใต้ นอกจากจะนิยมใช้กันในเมืองใหญ่ ๆ แล้ว ตามชนบทก็เป็นที่นิยมด้วย เนื่องจากเป็นชุดที่ใส่แล้วสบาย เพราะเนื้อผ้า ค่อนข้างละเอียด คนที่ดูมีอายุหน่อยมักจะใส่ชุดอ่าว หญ่ายนี้ โดยเลือกที่จะใส่ชุดสีเข้ม ๆ มีเนื้อผ้าที่มีราคา เช่น ผ้าสีดำ หรือ สีน้ำเงินเข้ม

ภาษาเวียดนาม
คำทักทาย (ภาษาเวียดนาม)
เจา อง (Chao Ong) : สวัสดี สำหรับชายสูงอายุ
เจา แองห์ (Chao Anh) : สวัสดี ชายหนุ่ม
เจา บั๊ก (Chao Bac) : สวัสดี ชายอายุมากกว่า
เจา แอม (Chao Em) : สวัสดี ชายอายุน้อยกว่า
เจา บา (Chao Ba) : สวัสดี สำหรับหญิงสูงอายุ
เจา โก (Chao Co) : สวัสดี หญิงสาว
เจา จิ (Chao Chi) : สวัสดี หญิงอายุมากกว่า
เจา แอม (Chao Em) : สวัสดี หญิงอายุน้อยกว่า
กาม เอิน (Cam On) : ขอบคุณ
ซิน จ่าว (Xin Chao) : สวัสดี (ใช้ได้ทุกเวลา)
ซิน โหลย (Xin Loi) : ขอโทษ
จุ๊บ หงู งอน (Chuc Ngu Ngon) : ราตรีสวัสดิ์
ซิน เหม่ย (Xin Moi) : ขอเชิญ,กรุณา
ตาม เบียด (Tam Biet) : ลาก่อน
แฮน กัพ ไล (Hen Gap Lai) : พบกันใหม่
บั๊ก โก แคว คง (Bac Co Khoc Khong) : สบายดีหรือ
กาม เอิน บิงห์ เทือง (Cam On Binh Thuong) : สบายดี ขอบคุณ
แดบ หลำ (Dab Lam) : สวยมาก
ยา (Da) : ใช่
คง (Khong) : ไม่
โตย (Toi) : ฉัน
ซิงหลำ (Xinh Lam) : มีเสน่ห์มาก
เติน อง ลา จี (Ten Ong La Chi) : คุณชื่ออะไร
โตย เติน ลา (Toi Ten La) : ฉันชื่อ
อัน เอียว เอ็ม (Anh Yeu Em) : พี่รักน้อง,ฉันรักเธอ
เอ็ม เอียว อัน (Em Yeu Anh) : น้องรักพี่